เทศกาลตรุษจีน: ผ่อนคลายและเพลิดเพลินกับการพบปะสังสรรค์และความสงบในบรรยากาศแห่งการเฉลิมฉลอง
เทศกาลตรุษจีนเป็นหนึ่งในเทศกาลดั้งเดิมที่สำคัญที่สุดของจีน และเป็นช่วงเวลาที่ฉันรอคอยมากที่สุดในรอบปี ในช่วงเวลานี้ โคมแดงจะถูกแขวนไว้หน้าบ้านทุกหลัง และมีการประดับประดาด้วยตัวอักษรอวยพรขนาดใหญ่ตามหน้าต่าง ทำให้บ้านเต็มไปด้วยบรรยากาศรื่นเริง สำหรับฉัน เทศกาลตรุษจีนไม่เพียงแต่เป็นช่วงเวลาที่ได้กลับมาอยู่กับครอบครัวเท่านั้น แต่ยังเป็นโอกาสที่ดีที่จะได้ผ่อนคลายและปรับสมดุลร่างกายและจิตใจอีกด้วย
เทศกาลตรุษจีน ช่วงเวลาอบอุ่นสำหรับการรวมตัวกันของครอบครัว
เทศกาลตรุษจีนเป็นเทศกาลแห่งการรวมญาติพี่น้อง และเป็นช่วงเวลาที่เราจะกล่าวคำอำลาปีเก่าและต้อนรับปีใหม่ ตั้งแต่วัน "ตรุษจีน" ในวันที่ 23 เดือนสิบสอง ไปจนถึงวันส่งท้ายปีเก่าในวันแรกของเทศกาลตรุษจีน ทุกครัวเรือนต่างเตรียมพร้อมต้อนรับเทศกาลตรุษจีน ในช่วงเวลานี้ ทุกครัวเรือนจะกวาดบ้าน แปะกลอนตรุษจีน และตกแต่งบ้านเพื่อต้อนรับปีใหม่ ประเพณีดั้งเดิมเหล่านี้ไม่เพียงแต่ช่วยเสริมบรรยากาศรื่นเริงเท่านั้น แต่ยังเป็นสัญลักษณ์ของการอำลาสิ่งเก่าและต้อนรับสิ่งใหม่ ขับไล่สิ่งชั่วร้าย และขอพรให้ปีใหม่เป็นปีที่ดียิ่งขึ้น
กวาดบ้านและแปะกลอนเทศกาลตรุษจีนเป็นกิจกรรมสำคัญก่อนเทศกาลตรุษจีน ทุกปีก่อนเทศกาลตรุษจีน ครอบครัวจะทำความสะอาดบ้านอย่างทั่วถึง หรือที่เรียกกันทั่วไปว่า "กวาดบ้าน" ซึ่งหมายถึงการกำจัดสิ่งเก่าและนำสิ่งใหม่เข้ามา ปัดเป่าสิ่งชั่วร้ายและโชคร้ายออกไป อีกหนึ่งประเพณีคือการติดโคมแดงในโคมแดงที่บรรจุคำอวยพรและคำมงคลสำหรับปีใหม่ การแขวนโคมแดงและโคมแดงขนาดใหญ่ไว้หน้าประตูบ้าน จะทำให้ครอบครัวของเราสัมผัสได้ถึงบรรยากาศอันเข้มข้นของปีใหม่ เต็มไปด้วยความคาดหวังและความหวังในอนาคต
เช้าตรู่ของวันแรกของเทศกาลตรุษจีน ทุกคนในครอบครัวจะสวมเสื้อผ้าใหม่ และอวยพรปีใหม่ให้กันและกัน ไม่เพียงแต่เป็นพรแก่ญาติมิตรเท่านั้น แต่ยังเป็นความหวังสำหรับตนเองและครอบครัวอีกด้วยคำอวยพรปีใหม่เป็นหนึ่งในกิจกรรมที่สำคัญที่สุดในช่วงเทศกาลตรุษจีน เหล่าคนรุ่นใหม่ต่างอวยพรปีใหม่แก่ผู้อาวุโส และผู้อาวุโสต่างเตรียมซองแดงให้เด็กๆ ซองแดงนี้ไม่เพียงแต่เป็นสัญลักษณ์ของพรจากผู้อาวุโสเท่านั้น แต่ยังสื่อถึงโชคลาภและความมั่งคั่งอีกด้วย
ดอกไม้ไฟและประทัด: การอำลาสิ่งเก่าและต้อนรับสิ่งใหม่ ปลดปล่อยความหวัง
เมื่อพูดถึงประเพณีเทศกาลตรุษจีนแล้ว เราจะลืมเรื่องดอกไม้ไฟและประทัดไปได้อย่างไร? ตั้งแต่วันส่งท้ายปีเก่าเป็นต้นไป เสียงประทัดจะดังไปทั่วทุกหนทุกแห่งบนท้องถนน ดอกไม้ไฟสีสันสดใสจะเบ่งบานบนท้องฟ้า ส่องสว่างไปทั่วท้องฟ้ายามค่ำคืน ไม่เพียงแต่เป็นการเฉลิมฉลองปีใหม่เท่านั้น แต่ยังเป็นสัญลักษณ์ของการปัดเป่าสิ่งชั่วร้ายและภัยพิบัติ และต้อนรับความโชคดีอีกด้วย
การจุดพลุและประทัดเป็นหนึ่งในประเพณีที่เป็นสัญลักษณ์ของเทศกาลตรุษจีน กล่าวกันว่าเสียงประทัดสามารถขับไล่วิญญาณชั่วร้ายได้ ขณะที่ความเจิดจ้าของประทัดเป็นสัญลักษณ์ของความโชคดีและความสว่างไสวในปีที่กำลังจะมาถึง ทุกปีในคืนส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ทุกครัวเรือนต่างให้ความสนใจกับการจุดประทัดและประทัด ซึ่งเป็นประเพณีที่สืบทอดกันมาอย่างยาวนานและมีชีวิตชีวา อย่างไรก็ตาม ด้วยเหตุผลด้านความปลอดภัย เมืองต่างๆ เริ่มให้หน่วยงานรัฐบาลจัดงานแสดงดอกไม้ไฟขนาดใหญ่ขึ้นด้วยตนเองมากขึ้นเรื่อยๆ แทนที่การจุดประทัดแบบส่วนตัว แต่ในพื้นที่ชนบทหลายแห่ง ประเพณีการจุดประทัดและประทัดยังคงไม่ได้ถูกจำกัด และยังคงเป็นส่วนสำคัญที่ขาดไม่ได้ในเทศกาลตรุษจีน ถึงกระนั้น ฉันก็ยังคงเฝ้ารอช่วงเวลาอันแสนงดงามที่ดอกไม้ไฟจะสาดส่องลงมาบนท้องฟ้ายามค่ำคืน ปลดปล่อยพรและความหวังทั้งหมดออกมา
ช่วงเวลาอันงดงามของดอกไม้ไฟไม่เพียงแต่เป็นงานเลี้ยงทางสายตาเท่านั้น แต่ยังเป็นการปลดปล่อยพลังในปีใหม่อีกด้วย เสียงประทัดและดอกไม้ไฟทุกลูกที่ดังกระหึ่ม ล้วนเปี่ยมไปด้วยความหมายเชิงสัญลักษณ์อันทรงพลัง คือการอำลาปีเก่า บอกลาความโชคร้ายและเคราะห์ร้าย ต้อนรับปีใหม่ นำพาความหวังและแสงสว่างใหม่มาให้ พลังงานที่ถูกปลดปล่อยนี้ดูเหมือนจะแทรกซึมเข้าสู่หัวใจของเรา นำพาพลังและแรงบันดาลใจใหม่ๆ มาให้
โยคะก็ช่วยปลดปล่อยพลังงานเช่นเดียวกัน เมื่อฉันสวมชุดโยคะและเริ่มฝึกสมาธิหรือฝึกหายใจ ฉันก็กำลังปลดปล่อยความเครียดทั้งร่างกายและจิตใจ บอกลาความเหนื่อยล้าจากปีที่ผ่านมาและต้อนรับการเริ่มต้นใหม่ การทำสมาธิ การหายใจเข้าลึกๆ และการยืดเหยียดร่างกายในโยคะสามารถช่วยขจัดความวิตกกังวลและความตึงเครียดในชีวิตประจำวัน ทำให้หัวใจของฉันสดใสและมีความหวังดุจดอกไม้ไฟ เช่นเดียวกับพลังงานที่ปลดปล่อยออกมาจากดอกไม้ไฟ โยคะยังช่วยให้ฉันรู้สึกถึงความแจ่มใสและความสงบในหัวใจ และเริ่มต้นปีใหม่ได้อย่างสดใส
ประเพณีดั้งเดิมอื่นๆ ของเทศกาลตรุษจีน
นอกเหนือจากดอกไม้ไฟและประทัดแล้ว ยังมีประเพณีดั้งเดิมที่มีความหมายมากมายในช่วงเทศกาลตรุษจีน ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความคาดหวังและความปรารถนาดีของชาวจีนสำหรับปีใหม่
1.การรับประทานอาหารส่งท้ายปีเก่า
อาหารค่ำ อาหารค่ำวันส่งท้ายปีเก่าเป็นหนึ่งในกิจกรรมสำคัญที่สุดที่ครอบครัวจะได้พบปะสังสรรค์กันในช่วงเทศกาลตรุษจีน ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของการกลับมาพบกันอีกครั้งและการเก็บเกี่ยวผลผลิต ในวันส่งท้ายปีเก่าของทุกปี ทุกครัวเรือนจะเตรียมอาหารค่ำส่งท้ายปีเก่าอย่างพิถีพิถัน อาหารพื้นเมืองอย่างเกี๊ยว ข้าวต้ม และปลา ล้วนมีความหมายมงคลที่แตกต่างกันไป ยกตัวอย่างเช่น การกินเกี๊ยวเป็นสัญลักษณ์ของความมั่งคั่งและโชคลาภ ในขณะที่ข้าวต้มเป็นสัญลักษณ์ของ "ปีแล้วปีเล่า" ซึ่งหมายถึงการประสบความสำเร็จในหน้าที่การงานและชีวิต
2.ซองแดง
- ในช่วงเทศกาลตรุษจีน ผู้อาวุโสจะมอบของขวัญให้กับคนรุ่นใหม่ใหม่เงินประจำปีซึ่งเป็นวิธีอวยพรให้เด็กๆ เติบโตอย่างแข็งแรง สงบสุข และมีความสุข เงินปีใหม่มักจะใส่ในซองแดง และสีแดงบนซองแดงเป็นสัญลักษณ์ของความโชคดีและพร ประเพณีนี้สืบทอดกันมาหลายพันปี ทุกเทศกาลตรุษจีน เด็กๆ มักจะรอคอยที่จะได้รับซองแดงจากผู้อาวุโส ซึ่งหมายความว่าพวกเขาจะโชคดีในปีใหม่
3.งานวัดและการเต้นรำมังกรและสิงโต
งานวัดในเทศกาลตรุษจีนแบบดั้งเดิมก็เป็นส่วนสำคัญที่ขาดไม่ได้ในเทศกาลตรุษจีนเช่นกัน ต้นกำเนิดของงานวัดสามารถสืบย้อนกลับไปได้ถึงกิจกรรมการบูชายัญ และในปัจจุบันไม่เพียงแต่มีพิธีกรรมบูชายัญต่างๆ เท่านั้น แต่ยังรวมถึงการแสดงพื้นบ้านอันวิจิตรตระการตา เช่น การเชิดมังกรและสิงโต การเดินบนไม้ต่อขา ฯลฯ การแสดงเหล่านี้มักสื่อถึงการขับไล่วิญญาณชั่วร้าย และขอพรให้อากาศดีและผลผลิตอุดมสมบูรณ์ในปีใหม่
4.งดการกวาดบ้านในวันแรกของปีใหม่
อีกประเพณีที่น่าสนใจคือ ในวันแรกของเทศกาลตรุษจีน ผู้คนมักจะไม่กวาดพื้นบ้าน เชื่อกันว่าการกวาดพื้นในวันนี้จะปัดเป่าโชคลาภและเงินทองออกไป ดังนั้นผู้คนจึงมักเลือกทำความสะอาดบ้านให้เสร็จก่อนวันขึ้นปีใหม่ เพื่อให้ปีใหม่เป็นไปอย่างราบรื่น.
5. การเล่นไพ่นกกระจอกช่วยส่งเสริมการรวมตัวของครอบครัว
- ในเทศกาลตรุษจีน หลายครอบครัวจะนั่งเล่นไพ่นกกระจอกด้วยกัน ซึ่งเป็นกิจกรรมบันเทิงที่ได้รับความนิยมอย่างมากในช่วงเทศกาลตรุษจีน ไม่ว่าจะเล่นกับญาติมิตรหรือกับครอบครัว ไพ่นกกระจอกดูเหมือนจะกลายเป็นส่วนสำคัญที่ขาดไม่ได้ในเทศกาลตรุษจีน ไม่เพียงแต่เพื่อความบันเทิงเท่านั้น แต่ที่สำคัญกว่านั้นคือ ไพ่นกกระจอกช่วยเสริมสร้างความรู้สึกและเป็นสัญลักษณ์ของการกลับมารวมตัวกันและความสามัคคีในครอบครัว
สวมชุดโยคะแล้วผ่อนคลาย
บรรยากาศเทศกาลตรุษจีนมักจะน่าตื่นเต้นอยู่เสมอ แต่หลังจากงานเลี้ยงสังสรรค์และการเฉลิมฉลองที่แสนวุ่นวาย ร่างกายมักจะรู้สึกเหนื่อยล้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากรับประทานอาหารค่ำมื้อใหญ่ส่งท้ายปีเก่า ท้องไส้มักจะรู้สึกหนักอึ้งอยู่เสมอ ช่วงนี้ฉันชอบใส่ชุดโยคะที่ใส่สบาย ทำท่าโยคะง่ายๆ สักสองสามท่า และผ่อนคลายตัวเอง
ยกตัวอย่างเช่น ฉันสามารถทำท่าแมว-วัวเพื่อผ่อนคลายกระดูกสันหลัง หรือท่ายืนก้มตัวไปข้างหน้าเพื่อยืดกล้ามเนื้อขาและลดแรงกดที่หัวเข่าและหลัง โยคะไม่เพียงแต่ช่วยคลายความตึงเครียดทางร่างกายเท่านั้น แต่ยังช่วยฟื้นฟูพลังงาน ช่วยให้ฉันผ่อนคลายและเพลิดเพลินกับทุกช่วงเวลาของการพักผ่อน
ในช่วงเทศกาลตรุษจีน เรามักจะได้ทานอาหารอร่อยๆ หลากหลายชนิด นอกจากขนมจีบและข้าวเหนียวสำหรับมื้อค่ำส่งท้ายปีเก่าแล้ว ยังมีขนมเค้กข้าวและขนมหวานจากบ้านเกิดอีกมากมาย อาหารอร่อยเหล่านี้มักจะทำให้น้ำลายสออยู่เสมอ แต่การทานมากเกินไปก็อาจสร้างภาระให้กับร่างกายได้ ท่าโยคะที่ช่วยย่อยอาหาร เช่น การนั่งก้มตัวไปข้างหน้าหรือการบิดกระดูกสันหลัง สามารถช่วยส่งเสริมการย่อยอาหารและบรรเทาอาการไม่สบายที่เกิดจากการทานมากเกินไปในช่วงเทศกาลตรุษจีนได้
การวางตัวอักษรอวยพรและการนอนดึก
ประเพณีอีกอย่างหนึ่งในช่วงเทศกาลตรุษจีนคือการวางตัวอักษรจีน "ฟู" บนประตูบ้านปกติแล้วตัวอักษรจีน "ฟู" จะถูกแปะกลับหัว แปลว่า "โชคดีมาถึงแล้ว" ซึ่งเป็นคำอวยพรปีใหม่ที่ดี ทุกเทศกาลตรุษจีน ฉันจะแปะตัวอักษรจีน "ฟู" กับครอบครัว สัมผัสบรรยากาศรื่นเริงรื่นเริง และรู้สึกว่าปีใหม่จะเต็มไปด้วยโชคลาภและความหวัง
นอนไม่หลับทั้งคืนในช่วงเทศกาลตรุษจีนก็เป็นประเพณีสำคัญเช่นกัน ในคืนส่งท้ายปีเก่า ครอบครัวต่างๆ จะมารวมตัวกันและอดหลับอดนอนจนถึงเที่ยงคืนเพื่อต้อนรับปีใหม่ ประเพณีนี้เป็นสัญลักษณ์ของการปกป้องคุ้มครองและสันติภาพ และเป็นอีกหนึ่งสัญลักษณ์ของการกลับมารวมตัวกันของครอบครัวในช่วงเทศกาลตรุษจีน
สรุป: เริ่มต้นปีใหม่ด้วยพรและความหวัง
เทศกาลตรุษจีนเป็นเทศกาลที่เต็มไปด้วยประเพณีและมรดกทางวัฒนธรรม พรั่งพรูและความคาดหวังมากมาย ในช่วงเวลาพิเศษนี้ ฉันได้สวมชุดโยคะ ดื่มด่ำกับบรรยากาศอันอบอุ่นของการรวมญาติพี่น้อง สัมผัสความงดงามและความสุขของดอกไม้ไฟและประทัด ผ่อนคลายทั้งร่างกายและจิตใจด้วยโยคะ ปลดปล่อยพลังและต้อนรับปีใหม่
ทุกธรรมเนียมปฏิบัติและพรแห่งเทศกาลตรุษจีนคือการปลดปล่อยพลังและการแสดงออกถึงวิสัยทัศน์จากส่วนลึกของหัวใจ ตั้งแต่การอวยพรปีใหม่และเงินทองนำโชค ไปจนถึงการเชิดมังกรและสิงโต ตั้งแต่การแปะโคลงกลอนเทศกาลตรุษจีนไปจนถึงการจุดพลุ กิจกรรมที่ดูเหมือนเรียบง่ายเหล่านี้ล้วนเชื่อมโยงอย่างใกล้ชิดกับความสงบภายใน สุขภาพ และความหวัง โยคะ ซึ่งเป็นกิจกรรมโบราณ เป็นส่วนเสริมของประเพณีดั้งเดิมของเทศกาลตรุษจีน และช่วยให้เราค้นพบความสงบและพลังของตนเองในช่วงเวลาแห่งพลังนี้
มาสวมชุดโยคะที่ใส่สบายที่สุด ทำสมาธิหรือยืดเหยียดร่างกาย ปลดปล่อยภาระทั้งหมดในปีใหม่ และต้อนรับพรและความหวังอย่างเต็มเปี่ยม ไม่ว่าจะเป็นดอกไม้ไฟ งานวัด งานเลี้ยงส่งท้ายปีเก่า หรือแม้แต่การทำสมาธิและโยคะในใจ สิ่งเหล่านี้ล้วนสื่อถึงธีมเดียวกัน นั่นคือ ในปีใหม่นี้ ขอให้เรามีสุขภาพแข็งแรง สงบ มีพลัง และก้าวเดินต่อไป
เวลาโพสต์: 29 ม.ค. 2568
